Moodle Academy Moodle Admin Basics

EP7. ธุรกิจยุคใหม่ วัดกึ๋นที่ไอเดีย

“มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก” ผู้ก่อตั้ง Facebook คือคนที่ใช้เวลาหมกตัวอยู่ในหอพักในช่วงปิดของฮาวาร์ด ในการสร้างโปรแกรมที่สามารถเปลี่ยนชีวิตผู้คนได้ทั่วโลก “ซัคเกอร์เบิร์ก” ทำงานแบบไม่มีวันหยุดจนดึกดื่นอยู่ทุกคืน จนสำเร็จเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดและมีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก ปัจจุบัน Facebook ได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้ “มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก” กลายเป็นมหาเศรษฐีหมื่นล้านที่อายุน้อยที่สุดไปโดยปริยาย

ไม่ว่าจะรวยหรือจนก็มีโอกาสที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจบนโลกออนไลน์ได้เท่าเทียมกัน การมีเงินมากกว่าไม่ใช่ข้อได้เปรียบอีกต่อไป บนโลกธุรกิจออนไลน์นั้นต้องการคนที่มี “ความคิดสร้างสรรค์” มากกว่า 

ไอน์สไตน์ที่กล่าวว่า 

"ถ้าไม่อยากทำอะไรผิด ก็ไม่ต้องคิดทำอะไรใหม่"

นี่เป็นสิ่งที่สะท้อน "ความคิดสร้างสรรค์" หรือ Creative Thinking ได้ดีมาก คนส่วนใหญ่มักยึดติดกับกรอบความคิดเดิมๆ ไม่กล้าคิดใหม่ทำใหม่

“ความคิดสร้างสรรค์” คือการสร้างสิ่งที่แตกต่างจากที่มีอยู่ ถ้าไม่คิดให้แตกต่างมันก็ไม่ใช่ความคิดสร้างสรรค์ และความคิดที่สร้างสรรค์ต้องเกิดประโยชน์และกระทบกับคนส่วนใหญ่ด้วย ถึงจะเป็นความคิดสร้างสรรค์อย่างแท้จริง

บริษัท Apple ได้เปิดตัว  App Store ขึ้นในปี 2008 มีแนวคิดในการขายแอพในราคา 99 เซ็นต์ ตอนนั้นนักพัฒนาต่างวิพากษ์วิจารณ์  Apple เป็นอย่างมาก พร่ำบ่นกันว่าการตั้งราคาขายต่ำแบบนี้พวกเขาจะอยู่ได้อย่างไร แต่สิ่งที่ Apple ทำก็คือ “ใช้ตลาดเป็นตัวนำ” โดยยึดผู้ใช้งานเป็นหลัก จนกลายเป็นว่าผู้คนได้เข้ามาโหลดแอพเป็นจำนวนมากบน App Store และทำให้นักพัฒนาอยู่รอดได้ บางคนถึงกับรวยจากการขายแอพก็มี

ผมมีตัวเลขทางสถิติที่น่าสนใจ ซึ่งเป็นรายงานผลการสำรวจพฤติกรรมผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยโดยสำนักงานพัฒนาธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สพธอ. (ETDA) โดยจัดเก็บข้อมูลพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ต โดยทาง สพธอ. ได้วางแบบสำรวจไปยังเว็บไซต์ต่างๆ รวมถึงเครือข่ายทางสังคมออนไลน์  พบว่า...

ค่าเฉลี่ยของการใช้อินเทอร์เน็ตต่อสัปดาห์เพิ่มสูงขึ้นจากการใช้งานโดยเฉลี่ย 32.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือใช้เวลาโดยประมาณ 4.6 ชั่วโมงต่อวัน ในปี 2556 เพิ่มขึ้นเป็น 50.4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ หรือใช้เวลา โดยประมาณ 7.2 ชั่วโมงต่อวัน ในปี 2557 ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ให้เห็นว่าระยะเวลาเพียงหนึ่งปี ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในบ้านเราใช้เวลากับท่องอินเทอร์เน็ตเพิ่มสูงขึ้นถึง 56% หรืออาจจะกล่าวได้ว่า ปัจจุบันนี้ คนใช้เวลาเกือบ 1 ใน 3 ของวันเพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต

ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตฯ มีระยะเวลาการใช้อินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นโดยมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่างๆ ที่เอื้อต่อการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหลายประการ ได้แก่ 

ประการแรก ราคาของอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ที่มีถูกลง ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่, สมาร์ตโฟน และแท็บเล็ตคอมพิวเตอร์

ประการที่สอง ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟนต่างก็แข่งขันกันพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ อีกมากมายเพื่อสนองตอบความต้องการใช้งานของผู้บริโภค และ

ประการที่สาม การเติบโตของบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย รวมไปถึงการขยายเครือข่าย 3G ทำ ให้ผู้ใช้งานสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา รวมทั้งนโยบาย WiFi สาธารณะของภาครัฐที่มีการขยายจุดให้บริการอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ยังมีรายงานตัวเลขทางสถิติต่างๆ ที่น่าสนใจมาก ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์  www.etda.or.th

ทีนี้เรามาดูรูปแบบการทำเงินบนโลกออนไลน์กันบ้างครับ

 1. ขายความรู้ออนไลน์ – ในยุคดิจิตอลแบบนี้ สินค้าที่กำลังมาแรงคือ “ข้อมูล” หรือ “ความรู้” สังเกตได้จากจำนวนบล็อกที่มากขึ้น ทำให้ผู้เขียนบล็อก (Bloger) เริ่มที่จะสร้างรายได้จากบล็อกของเขาอย่างไม่จำกัด ทั้งจากค่าโฆษณา  (Google Adsense) โปรแกรมแนะนำสินค้า (Affiliate Program) หรือแม้กระทั่งการทำ Digital Content มาขายในบล็อกของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น อีบุ๊ค, วีดีโอ/พอดแคสท์ หรือการสร้างคอร์ส/สัมมนาออนไลน์  เป็นต้น

2. ขายของออนไลน์ – ปัจจุบันช่องทางในการขายสินค้าไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านอีกต่อไป “เว็บไซต์” ได้เข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการจับจ่ายสินค้ามากขึ้น ผู้ซื้อไม่จำเป็นต้องมาเลือกสินค้าที่หน้าร้านอีกต่อไป สามารถสั่งซื้อได้จากอินเทอร์เน็ตได้ทันที สั่งวันนี้วันรุ่งขึ้นก็ได้รับสินค้าแล้ว นอกจากการทำเว็บไซต์สำหรับขายของแล้ว ยังสามารถใช้เครื่องมือเครื่อขายสังคม (Social Network) มาช่วยในการขายของได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instragram หรือแม้กระทั่ง Line ซึ่งเปิดบริการใหม่ที่ชื่อ “Line shop” สำหรับค้นหาร้านค้า พูดคุยกับเจ้าของร้านได้โดยตรงและสามารถสั่งซื้อได้ทันที

3. แนะนำสินค้าออนไลน์ – หรือเรียกอีกอย่างว่า Affiliate Program คือการทำการตลาดแบบบอกต่อ โดยสปอนเซอร์เจ้าของสินค้าจะจ่ายเงินให้ “ผู้แนะนำ” ผ่านลิงค์โฆษณา ถ้าสามารถดึงลูกค้าให้คลิกที่ลิงค์โฆษณาเพื่อไปยังเว็บไซต์ของเจ้าของลิงค์นั้นกำหนดไว้ หากลูกค้าได้ทำการสั่งซื้อสินค้าหรือสมัครสมาชิก “ผู้แนะนำ” ก็จะได้ค่าตอบแทนจากการสปอนเซอร์ตามอัตราที่ตกลงไว้ ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ให้บริการ Affiliate Program ได้แก่ Amazon, Ebay, Lazada และอื่นๆ อีกมากมาย ถ้าคุณมีเว็บไซต์หรือบล็อกที่มีคนเข้าชมต่อวันมากๆ ก็สามารถสมัครร่วมโปรแกรมและนำโค้ดมาติดไว้ในเว็บของคุณทันที

การสร้างตัวในยุคดิจิตอลแบบนี้แทบไม่ต้องใช้คำว่า "เงิน" มาเป็นตัวตั้งเสมอไป ถึงจะสามารถลงมือทำธุรกิจได้ สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจในยุคนี้ต้องวัดกันที่ “สมอง” นั่นก็คือ "ความคิด" + “สร้างสรรค์”  ถ้ามีความคิดที่ไร้ความแตกต่างก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ มีตัวอย่างของบรรดามหาเศรษฐีต่างๆ มากมาย ที่สร้างเนื้อสร้างตัวมาจากที่ไม่มีอะไรเลย บางคนเรียนไม่จบมหาวิทยาลัยแต่ก็สามารถประสบความสำเร็จและร่ำรวยได้

 “ในเศรษฐกิจสมัยใหม่ ความรู้ เป็นปัจจัยการผลิตที่มีความสำคัญที่สุด มากกว่าปัจจัยผลิตพื้นฐานในอดีต อาทิ ที่ดิน แรงงาน และเงินทุน” --ปีเตอร์ ดรักเกอร์

ความคิดเห็น